วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ความเชื่อผิดๆ ความเข้าใจผิดๆ ทางเพศ 12 ประการ

จริงๆ นะครับ ความคิดผิดๆ นั้น ก็เป็นแค่ความคิดเท่านั้น ถ้ายังไม่ได้กระทำ ย่อมไม่ถือว่าเป็นความผิด... เพราะการกระทำยังไม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศนั้น ถ้าคิดใหม่ ทำใหม่เสีย ก็จะไม่เกิดผลร้ายในการดำเนินชีวิตประจำวัน เรื่องราวเกี่ยวกับเพศ ได้รับการปกปิดมานานแล้ว จนข่าวลือและความเชื่อผิดๆ แต่โบราณ ยังคงได้รับการร่ำลือต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงยุคปัจจุบัน
ยุคนี้ เราต้องโปร่งใสกันแล้วในทุกเรื่อง... รวมทั้งเรื่องเพศ ความเชื่อผิดๆ ความคิดผิดๆ ในเรื่องเพศ จะต้องได้รับการขจัดปัดเป่าออกไป ต่อไปนี้ เป็นความเชื่อผิดๆ ความเข้าใจผิดๆ ทางเพศ 12 ประการ ที่องค์การอนามัยโลก ได้ตีพิมพ์ไว้ในหนังสือ

1. ผู้ชายไม่ควรแสดงอารมณ์และความรู้สึกเกี่ยวกับความรัก
เพราะคำร่ำลือที่ว่า ผู้ชายไม่ควรแสดงอารมณ์และความรู้สึกเกี่ยวกับความรักให้ออกนอกหน้า ไม่อย่างนั้นจะไม่เป็นชายสมชาย ผู้ชายจึงแสดงออกถึงความรักผ่านการมีเพศสัมพันธ์ จนเหมือนว่า ผู้ชายเกิดมาเพื่อที่จะมีเซ็กซ์ ทั้งๆ ที่เขาต้องการจะระบายความรักออกไป เท่านั้นเอง
แท้จริงแล้ว ผู้ชายสามารถจะแสดงอารมณ์รักออกมาทางสีหน้าแววตา การกระทำอะไรต่อมิอะไรได้เช่นผู้หญิง และการมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นส่วนหนึ่งของการบอกรัก ด้วยภาษากายเท่านั้น การแสดงความรักที่ซาบซึ้งแบบอื่น ผู้ชายก็ทำได้เช่นเดียวกับหญิง... และผู้หญิงก็ต้องการด้วย
2. การถูกเนื้อต้องตัวจะนำไปสู่การมีเซ็กซ์
เพราะความเชื่อที่ว่า ถ้าผู้หญิงยอมให้ผู้ชายถูกเนื้อต้องตัวแล้ว ก็แสดงว่าเธอมีใจกับเขา เขาจึงต้องพยายามต่อไปที่จะมีสัมพันธ์สวาทที่ลึกซึ้งกว่านั้นกับเธอ เป็นความเข้าใจผิดแท้ๆ เพราะบางครั้งผู้หญิงก็แค่ต้องการความอบอุ่นและประทับใจกับแฟนของเธอเท่านั้น โดยไม่ได้คิดอะไรเลยเถิดไปขนาดนั้นเลย
การจับมือกัน การโอบกอดสัมผัสกายของกันและกัน แท้ที่จริงเป็นการถ่ายทอดความรักที่บริสุทธิ์ ที่สามารถจะสัมผัสจับต้องได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องมีการร่วมรักกันต่อไปเลย และก็ไม่ควรที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะกดดันให้อีกฝ่ายต้องมีเซ็กซ์ด้วย
3. การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงจะนำไปสู่การสุขสมที่มากกว่า
เป็นความเข้าใจผิดกันมานานนักแล้วว่า ผู้ชายที่มีพละกำลังมากๆ จะสามารถมีเพศสัมพันธ์ กับหญิงสาวได้รวดเร็ว รุนแรง และทำให้เธอไปถึงจุดสุดยอดได้ง่าย รวมทั้งมีความเข้าใจผิดเสมอๆ ว่า อาวุธประจำกายของฝ่ายชายที่ใหญ่เท่านั้น ที่จะทำให้ผู้หญิงมีความสุขได้
แท้จริงแล้ว การมีสัมพันธ์สวาทที่อบอุ่น เนิ่นนาน เข้าใจกัน ช่วยกันประคับประคองนาวารัก ให้ผ่านคลื่นลมมรสุมสวาทจนบรรลุถึงฝั่งฝันต่างหาก ที่นำความสุขสมมาสู่คนทั้งสองได้มากกว่า สัมพันธ์สวาทจึงควรที่จะเกิดขึ้นในบรรยากาศที่แสนจะผ่อนคลายและโรแมนติก
4. การมีความสัมพันธ์ทางเพศก็คือการร่วมรัก
จริงไหมครับ เวลาที่คุณๆ นึกถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่เรียกกันสั้นๆ ว่าเซ็กซ์นั้น คุณนึกถึงแค่กระบวนการที่ฝ่ายชายนำเอาอาวุธประจำกายของเขาผ่านเข้าไปในส่วนสงวนของฝ่ายหญิง แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น...? ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง และสมควรได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะเซ็กซ์ ก็คือ การร่วมรัก การแสดงความรักผ่านภาษากาย เป็นสัมผัสรักที่คนสองคนถ่ายทอด ให้แก่กันจากการสัมผัสทางผิวกาย... ส่วนไหนก็ได้ ไม่ใช่เฉพาะส่วนนั้น เท่านั้น
การจูบกันอย่างดูดดื่ม การจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปาก และซอกคอ การกอดรัดสัมผัสทุกส่วนของกันและกัน การใช้ปากและมือรวมทั้งอวัยวะอื่น กับส่วนสงวนของกันและกัน ก็เป็นสัมผัสรักทางภาษากายที่เรียกว่า "เซ็กซ์" ได้ทั้งนั้น
จำไว้เลยนะครับว่า SEX IS NOT JUST AN INTERCOURSE แปลเป็นไทยเอาเองก็แล้วกัน!!
5. ผู้ชายควรเป็นผู้นำในการร่วมรัก
เรื่องนี้ก็ยังคงเป็นความเชื่อผิดๆ ที่ติดต่อกันมาในทุกยุคจริงๆ เลยนะครับ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายที่มีหัวอนุรักษ์นิยม มักจะคิดเสมอๆ ว่า การจะมีอะไรกันนั้น ผู้ชายต้องเป็นคนกระทำ และผู้หญิงเป็นฝ่ายรองรับการกระทำนั้น... โดยดุษฎี เป็นมาตรฐานต่างระดับ หรือ DOUBLE STANDARD จริงๆ นะครับ
แท้จริงแล้ว การร่วมรักเป็นกระบวนการที่คนสองคนสามารถปรับเปลี่ยนเป็นฝ่ายนำ ในการกระทำได้ โดยเสมอภาคซึ่งกันและกัน ไม่ได้หมายความว่า ถ้าผู้หญิงจะเริ่มสะกิดก่อน และเป็นฝ่ายอยู่ด้านบนแล้ว ผู้ชายจะเสียเปรียบเสียศักดิ์ศรี ผมว่าผู้ชายหลายราย อยากได้แสดงท่วงท่า WOMAN ON TOP ออกจะตาย ขอให้เธอยอมเท่านั้นก็พอ
6. ผู้หญิงไม่ควรจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน
ตามที่เล่าแจ้งแถลงไขในข้อที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า เซ็กซ์ เป็นการสื่อสาร 2 ทางระหว่างคน 2 คน ที่จะร่วมมือกันบรรเลงบทเพลงแห่งความพิศวาส ซึ่งต้องผลัดกันนำผลัดกันตาม และต้องช่วยกันโล้ ช่วยกันพายนาวารักไปยังจุดหมายปลายทางแห่งความสุขสมร่วมกัน
7. ผู้ชายนึกถึงแต่เรื่องเซ็กซ์ตลอดเวลา
มีคำกล่าวผิดๆ ที่พูดกันต่อเนื่องมาว่า ผู้ชายนึกถึงแต่เรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ที่เรียกกันสั้นๆ ว่า เซ็กซ์ อยู่ตลอด ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงก็คือ ผู้ชายไม่ได้คิดถึงเรื่องเซ็กซ์อยู่ตลอดเวลา เขาคิดถึงเรื่องอื่นอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เพียงแต่ผู้ชายพร้อมที่จะมีเซ็กซ์เสมอ และไม่ได้หมายความว่า เมื่อเขาพร้อมที่จะมีเซ็กซ์แล้ว เขาจำเป็นจะต้องมีเสมอไป
หลายๆ ครั้ง ที่ผู้ชายบอกสาวคนรักว่า "คืนนี้เราแค่กอดกันก็พอแล้วนะจ๊ะ ที่รัก"
8. ผู้หญิงต้องพร้อมเสมอที่จะมีเซ็กซ์ เมื่อสามีต้องการ
ที่จริงในยุคนี้ ไม่มีความจำเป็นแบบนั้นเลย ในอดีตน่ะใช่ แต่ไม่ใช่ในยุคไอทีแบบนี้ ที่ผู้ชายและผู้หญิงเท่าเทียมกัน และการจะมีเซ็กซ์กัน ก็เป็นกิจกรรมร่วมที่คนสองคนจะต้องใจตรงกันก่อน ไม่ใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการ แล้วอีกฝ่ายจะต้องยอม หรือคุณว่า...ไม่ใช่

9. เซ็กซ์ เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต้องเรียนรู้
ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะพยายามพูดเสมอๆ ว่า เพศศึกษาไม่สำคัญ ทำไมรุ่นก่อนๆ ไม่เห็นต้องเตรียมตัวเรียนรู้เลย ก็สามารถที่จะมีเซ็กซ์กัน จนมีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมืองได้
จริงน่ะจริง ไม่เถียง แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วมั้ง...คุณปู่ ใครๆ ก็รู้ว่า การเตรียมตัวที่ดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง เรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนสองคนก็เช่นกัน สามารถเรียนรู้วิธีการที่จะเพิ่มความสุข ให้แก่กันและกันได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น
10. ผู้หญิงจะต้องไม่ทำ...
ต้องไม่ช่วยตนเอง ต้องไม่ใช้เครื่องมือช่วย เช่น ไวเบรเตอร์ อวัยวะเทียม ต้องไม่แสดงอาการมีความสุขในระหว่างมีเซ็กซ์ ห้ามส่งเสียงครวญคราง ฯลฯ ...นั่นเป็นความเชื่อผิดๆ และเป็นข้อห้ามผิดๆ ที่ควรจะขจัดปัดเป่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะผู้หญิงมีสิทธิทางเพศ อันเป็นสิทธิพื้นฐานที่สามารถกระทำเรื่องดังกล่าวได้ ตามความต้องการตามธรรมชาติ
11. การมีเซ็กซ์ จะต้องไปถึงจุดสุดยอดทุกครั้ง
บางความเชื่อบอกว่า ถ้าจะร่วมรักแล้ว ต้องมีอะไรกันเท่านั้นเท่านี้ ต้องไปถึงดวงดาวทุกครั้ง ต้องถึงพร้อมกัน โถ... ในความเป็นจริง ใครจะทำได้! เซ็กซ์ เป็นธรรมชาติ มีการปรับเปลี่ยน ปรับปรุง เป็นการร่วมรัก ไม่ใช่การบ้าน จึงไม่มีข้อจำกัด
12. ถ้าเซ็กซ์ไม่ดีแล้ว สัมพันธภาพจะไม่ดีตามไปด้วย
ที่จริงแล้ว สัมพันธภาพที่ดี จะทำให้มีเซ็กซ์ที่ไม่สุขสมมากกว่า แต่คู่รักที่มีสัมพันธภาพที่ดี แม้เซ็กซ์จะไม่สุขสมมากนัก ก็ยังคงรักกันอยู่ได้ เพราะคนเราที่มีชีวิตคู่ ไม่ใช่จะอยู่ด้วยกันเพื่อที่จะมีเซ็กซ์
แต่อยู่ด้วยกัน เพราะเราเป็นเพื่อนคู่ชีวิต... ต่างหาก

ไม่มีความคิดเห็น: